โรคเบาหวาน

โรคเบาหวาน


สาเหตุ
เบาหวานเกิดได้จากหลายสาเหตุ  มักไม่ได้เป็นจากสาเหตุใดสาเพตุหนึ่ง  แต่เป็นจากหลายหลายสาเหตุร่วมกัน  ได้แก่

1. กรรมพันธุ์  
เบาหวานมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ส่วนหนึ่ง  แต่ผู้ที่มีญาติสายตรง อาทิเช่นพ่อ  แม่  พี่  น้อง  เป็นเบาหวานก็ไม่จำเป็นต้องป่วยเป็น
โรคเบาหวานทุกราย  ทั้งนี้ขึ้นกับการควบคุมดูแลปัจจัยเสี่ยงอย่างอื่น

2. โรคอ้วน
ผู้ที่มีน้ำหนักมาก  ไขมันส่วนเกินจะสร้างสารที่ทำให้การตอบสนองของเนื้อเยื่อร่างกายต่ออินซูลินไม่ดี  หรือนัยหนึ่ง เกิดภาวะ
ดื้อต่ออินซูลินขึ้น

3. ผู้สูงอายุ 
เมื่ออายุมากขึ้น  ตับอ่อนจะเสื่อมการทำงานลง  ทำให้การสังเคราะห์และการหลั่งอินซูลินลดลง

4. โรคของตับอ่อน 
เช่น ภาวะตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง จากการดื่มเหล้า   ยา  หรือไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง

5. การติดเชื้อไวรัสบางชนิดเมื่อยังเป็นเด็ก
เช่น  หัด  หัดเยอรมัน  คางทูม  โดยพบว่า เด็กที่ป่วยเป็นโรคดังกล่าว มีโอกาสเป็นเบาหวานเมื่อายุมากขึ้น  เมื่อเทียบกับเด็กที่
ไม่ได้ป่วย

6. การได้รับยาบางชนิด
เช่น  สเตียรอยด์  ยาขับปัสสาวะ  ยาคุมกำเนิดบางชนิด  ซึ่งยาเหล่านี้ทำให้มีการสร้างน้ำตาลที่ตับมากขึ้น  หรือเกิดการตอบ
สนองของอินซูลินแย่ลง

7. การตั้งครรภ์ 
เนื่องจากขณะตั้งครรภ์จะมีการฮอร์โมนจากรก  ซึ่งมีผลต่อต้านการทำงานของอินซูลิน 

อาการของโรคเบาหวาน
  • คนปกติมักจะไม่ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะในเวลากลางดึก หรือปัสสาวะอย่างมากไม่เกิน 1 ครั้ง เมื่อน้ำตาลในกระแสเลือดมากกว่า180มก.% โดยเฉพาะในเวลากลางคืนน้ำตาลจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ทำให้น้ำถูกขับออกมากขึ้น จึงมีอาการปัสสาวะบ่อยและเกิดการสูญเสียน้ำ และอาจจะพบว่าปัสสาวะมีมดตอม
  • ผู้ป่วยจะหิวน้ำบ่อยเนื่องจากต้องทดแทนน้ำที่ถูกขับออกทางปัสสาวะ
  • อ่อนเพลีย น้ำหนักลดเกิดเนื่องจากร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาล จึงย่อยสลายส่วนที่เป็นโปรตีนและไขมันออกมา
  • ผู้ป่วยจะกินเก่งหิวเก่ง แต่น้ำหนักจะลดลงเนื่องจากร่างกายนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานไม่ได้ จึงมีการสลายพลังงานจากไขมันและโปรตีนจากกล้ามเนื้อ
  • อาการอื่นๆที่อาจเกิดได้แก่ การติดเชื้อ แผลหายช้า คัน
  • คันตามผิวหนัง มีการติดเชื้อรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณช่องคลอดของผู้หญิง สาเหตุของอาการคันเนื่องจากผิวแห้งไป หรือมีการอักเสบของผิวหนัง
  • เห็นภาพไม่ชัด ตาพร่ามัวต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงสายตา เช่นสายตาสั้น ต่อกระจก น้ำตาลในเลือดสูง
  • ชาไม่มีความรู้สึก เจ็บตามแขนขาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เนื่องจากน้ำตาลสูงนานๆทำให้เส้นประสาทเสื่อม เกิดแผลที่เท้าได้ง่าย เพราะไม่รู้สึก
  • อาเจียน
  • การรักษาด้วยว่านหางจระเข้
             โรคเบาหวานเกิดจากการเผาผลาญอาหารในร่างกายผิดปกติไปและว่านหางจระเข้ก็ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอาหาร
    ในร่างกายได้ จึงใช้ได้ผลดีมาก
         วิธีรับประทานจะรับประทานว่านสดหรือจะดื่มน้ำคั้นว่านหางจระเข้ก็ได้ ในปริมาณ 15กรัมทุกวันหากเป็นการรับ
    ประทานเพื่อป้องกันโรค ก็อาจรับประทานในปริมาณที่น้อยลง
             
    ใคร ๆ ก็รู้ว่ามีประโยชน์ สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นการออกกำลังกายมีประโยชน์ทั้งในแง่ของ
    การทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง และยังสามารถป้องกันการเกิดเป็นโรคเบาหวานในคนที่มีปัจจัย
    เสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ด้วย ก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกาย ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะต้องมีการเตรียมตัวและวาง
    แผนมากกว่าคนทั่วไปอีกเล็กน้อย 

               การออกกำลังกายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควรออกกำลังนานเกินกว่า 30 นาที โดยควรมีช่วงของการอุ่นเครื่อง 10
    นาที และช่วงของการเบาเครื่อง 10 นาทีด้วย แต่เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานจะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดบาดแผลที่บริเวณ
    เท้า ดังนั้น การออกกำลังกายจึงควรเลือกประเภทที่ไม่มีผลต่อการบาดเจ็บที่เท้า เช่น โยคะ รำมวยจีน การเดินเร็ว การว่าย
    น้ำ หรือการปั่นจักรยาน 

              สำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่จำเป็นต้องฉีดอินซูลิน อาจจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพเบาหวาน ปรับอาหาร
    และปรับปริมาณยาก่อนที่จะออกกำลังกาย ควรจะออกกำลังกายก่อนฉีดยา และตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก่อนและหลังการ
    ออกกำลังกายในระยะแรก เพื่อให้ทราบการเปลี่ยนแปลงของน้ำตาลในเลือด อย่าฉีดอินซูลินลงในกล้ามเนื้อที่ใช้ออกกำลัง
    เช่น บริเวณหน้าขาเพราะจะทำให้เกิดดูดซึมอินซูลินอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดต่ำจนเกิดอันตราย พบว่าตำแหน่ง
    ที่ดีที่สุดในการฉีดยาควรเป็นบริเวณหน้าท้องและที่สำคัญขณะออกกำลังกายควรพกอาหารพวกคาร์โบไฮเดรตที่ออกฤทธิ์เร็ว
    เช่น น้ำตาลก้อน หรือท็อฟฟี่ติดตัวเพื่อเตรียมไว้แก้ไขปัญหาน้ำตาลในเลือดต่ำฉุกเฉิน เราพบว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอ
    ทุกวันแบบไม่หักโหมนั้นเป็นวิธีหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้วยังช่วยให้ยืดอายุผู้ป่วยเบาหวานให้ยาวนานอีกด้วย แพทย์
    หญิงเจรียง จันทรกมล นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาลงกรณ์ สนับสนุนข้อมูลโดย แพทย์หญิงศิริกานต์ นิเทศวรวิทย์ อายุร
    แพทย์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น